หินเกลือหิมาลัย (Himalayan salt) เป็นชนิดของเกลือหินที่ถูกทำเหมืองมาจากแคว้นปัญจาบของประเทศปากีสถาน มีองค์ประกอบหลักเหมือนกับเกลือแกง(NaCl) มักมีสีชมพูอ่อนเนื่องจากมีองค์ประกอบของธาตุต่างๆเข้าไปแสดงสีในองค์ประกอบของเกลือ(ในมุมมองเจ้าของร้านมองว่า การแสดงสีแดงชมพู สีพีซเกิดจากแร่เกลือของโพแทสเซียม เช่น แร่คานัลไลต์(Carnallite) หรือ แร่ซิลไวต์(Sylvite)) ส่วนใหญ่จะใช้เป็นเครื่องปรุงอาหารแทนเกลือแกงทั่วไป โคมไฟตกแต่ง และใช้ในอุตสาหกรรมสปา
จากตารางที่แสดงถึงธาตุต่างๆจำนวน 84 ชนิด ที่มีอยู่ในเกลือหิมาลัย หลายๆแหล่งข้อมูลจะอ้างอิงว่า มันมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าเกลือทั่วไปจากจำนวนชนิดที่พบในตารางนี้ แต่เมื่อดูในรายละเอียด จะพบว่าในองค์ประกอบก็มีโลหะหนักต่างๆ เช่น ปรอท สารหนู ยูเรเนียมและธาตุตะกั่ว เป็นต้น ในปริมาณที่น้อยมาก(ต่ำกว่าระดับเฝ้าระวัง)รวมอยู่ใน 84 ชนิดนี้ด้วย รวมถึงบางบทความเกี่ยวกับสารอาหารในวรสารทางโภชนาการก็ได้ชี้แจงว่า ธาตุหลายๆชนิดในตารางก็สามารถพบได้ในผักและผลไม้ที่เราทานด้วยเช่นกัน
มีการกล่าวอ้างในหลายๆแหล่งข้อมูลว่า ธาตุต่างๆที่มีหลากชนิดในเกลือหิมาลัยเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งขนาดที่เล็กถึงขนาดเป็นคอลลอยด์ ทำให้สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายที่ง่ายและใช้ประโยชน์ได้ทันที สามารถทำลายประจุลบต่างๆได้ รวมถึงช่วยในการผ่อนคลาย แต่ข้อมูลเหล่านี้ เป็นเพียงการกล่าวอ้างโดยผู้ผลิตและผู้ขายที่ทดสอบในรูปแบบของตัวเองและเชื่ออย่างนั้น โดยไม่ได้มีการพิสูจน์เป็นขั้นเป็นตอนตามกระบวนการวิจัย หรือเรียกว่าเป็น "วิทยาศาสตร์เทียม(Pseudoscientific)*" เพราะไม่มีหลักฐานและงานวิจัยที่ชัดเจนที่สนับสนุนข้อมูลตามขั้นตอนมาตรฐาน เจ้าของร้านจึงไม่ขออ้างอิงว่า การนำมารับประทานจะมีประโยชน์มากกว่าเกลือปกติหรือไม่
*วิทยาศาสตร์เทียม(Pseudoscientific) คือ การกล่าวอ้าง, ความเชื่อ หรือการปฏิบัติ ที่แสดงตนเป็นวิทยาศาสตร์แต่มิได้ยึดแบบแผนกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขาดการสนับสนุนด้วยหลักฐาน หรือ หลักความเป็นไปได้ ไม่สามารถทำการตรวจสอบ หรือขาดฐานกระบวนการและขั้นตอนในการพิสูจน์ที่เป็นวิทยาศาสตร์
การเกิดของเกลือหิมาลัย
เกิดแบบหินเกลือระเหย(Evaporites)ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ซอลล์เรนจ์(Salt Range) การก่อตัวทางธรณีวิทยาแบบนี้ ประกอบด้วยผลึกเกลือฮาไลต์สอดแทรกด้วยเกลือโปแตชทับด้วยปูนมาร์ล และสอดแทรกด้วยฐานของยิปซั่มและโดโลไมต์ที่มีชั้นหินน้ำมันนานๆครั้ง ชั้นเหล่านี้ถูกปิดทับด้วนหินตะกอนที่จะมีช่วงอายุระหว่างช่วงแคมเบรียนถึงยุคอีโอซีน(Eocene) และถูกผลักลงไปกับหินตะกอนอายุน้อยกว่า และถูกกัดเซาะเพื่อสร้างแหล่งซอลล์เรนจ์ที่มีอายุระหว่าง 600 และ 540 ล้านปีที่ผ่านมา
ชื่อและที่มาของชื่อ
ถูกตั้งชื่อตามพื้นที่ที่พบบริเวณตีนเขาในพื้นที่ประเทศปากีสถาน ที่อยู่ในเทือกเขาหิมาลัย
เรื่องเล่าและตำนานที่เกี่ยวข้อง
มีตำนานท้องถิ่นว่า มีการพบเกลือครั้งแรกและถูกใช้โดยกองทัพของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชที่ผ่านมาระหว่างเดินทางด้วยเส้นทางนี้
ความเชื่อ
เกลือหิมาลัยเป็นที่รู้จักกันในนาม "เกลือสีชมพู(Pink Halite)" ทำให้มันมีคุณสมบัติที่คล้ายกันกับโรสควอตซ์กับโรสควอตซ์ และเป็นผลึกที่ยอดเยี่ยมสำหรับความรักโดยเฉพาะความรักตัวเอง ไม่เพียงแต่ช่วยให้คนเรามีประสบการณ์ความรักตนเองเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราลงมือปฏิบัติและทำสิ่งต่างๆ เพื่อแสดงออกถึงความรักในตนเอง มันช่วยค้นหาความรู้สึก การตอบถึงจุดประสงค์ของการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดี เรียนรู้ที่จะพูดว่า "ไม่" เพื่อปฏิเสธสิ่งที่ไม่มีคุณค่าต่อร่างกายของเรา รวมถึงเห็นคุณค่าในการใช้เวลาสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและความเพลิดเพลินของตัวเอง
มีการใช้เกลือบริสุทธิ์มานานหลายศตวรรษในการป้องกัน การป้องกันความชั่วร้ายโดยเฉพาะการป้องกันในบ้านและรอบๆตัวบ้าน เกลือยังใช้สำหรับการชำระล้างทำความสะอาดและปัดเป่า ในพิธีกรรมที่มีมนต์ขลังแบบดั้งเดิมมากมาย เกลือยังถูกใช้เพื่อปลดปล่อยสิ่งที่เก็บกดไว้รวมถึงอารมณ์ ขอแนะนำให้ผู้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมของการถูกปฏิเสธหรือการสื่อสารเก็บชิ้นส่วนของ เกลือหิมาลัยบนโต๊ะหรือบริเวณใกล้เคียง ในรูปแบบของโคมไฟจะดีที่สุด
เกลือหินหิมาลัยมีความอ่อนโยน แต่มีความแข็งแกร่งจากธาตุดิน ยังมีความเชื่อว่า มันช่วยนำความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรืองมาสู่บ้าน
ความเชื่อของโคมไฟเกลือหินหิมาลัย
1. ช่วยสร้างสมดุลของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
2. เพิ่มประสิทธิภาพการหายใจ
3. ทำความสะอาด และปรับบรรยากาศ
4. รักษาอาการภูมิแพ้และลดโรคหืด
5. บรรเทาอาการไอและอาการอื่นๆ ของโรคหวัด
6. เพิ่มการไหลเวียนของเลือด
7. เพิ่มพลังงาน
8. เพิ่มความตั้งใจและประสิทธิภาพการทำงาน
9. ปรับปรุงอารมณ์
10. ลดความเครียดและช่วยให้เกิดการการผ่อนคลาย
11. เพิ่มประสิทธิภาพการนอนหลับ